ต๋องศิษย์ฉ่อย จากเด็กในสลัม ก่อนก้าวขึ้นสู่ มือวางอันดับ 3 ของโลก และการจารึกประวัติศาสตร์ ในการคว้าทองซีเกมส์ ในวัย 52 ปี
ต๋องศิษย์ฉ่อย หรืออีกหนึ่งชื่อ ที่แฟนสนุ๊กเกอร์ชาวไทย จะรู้จักกันเป็นอย่างดี ในนามนักสนุ๊ก ที่ชื่อว่า วัฒนา ภู่โอบอ้อม ก่อนที่ในภายหลัง เจ้าตัวจะมีการ เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า รัชพล ภู่โอบอ้อม ก่อนที่จะ มาได้รับฉายา
ที่เป็นที่รู้จักกันดีในนาม ต๋องศิษย์ฉ่อย ประวัตินักสนุ๊กเกอร์ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ประวัติ ส่วนตัว เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2513 ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ปัจจุบัน มีอายุ 52 ปี จากชีวิตในวัยเด็ก ที่เติบโต ในย่านสลัมคลองเตย โดยบิดาของต๋องนั้น ก็เป็นนักสนุ๊กเกอร์ เช่นเดียวกัน
โดยพ่อของต๋อง เป็นนักสนุกเกอร์ ที่เล่นในระดับอาชีพ โดยมีฉายาว่า ฉ่อย ซู่ซ่าส์ จากการที่มีต้นแบบ การเป็นนักสนุ๊กเกอร์ โดยผู้เป็นพ่อ ของตนเอง ทำให้ต๋องนั้น จึงมีโอกาส ติดตามดูคุณพ่อ ในการเล่นสนุกเกอร์มาตั้งแต่วัยเด็ก โดยยึดแบบอย่าง การเล่นสนุ๊ก จากผู้เป็นพ่อ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ครอบครัว ในการฝึกฝน
จึงทำให้ต๋องนั้น มีโอกาสฝึกฝนฝีมือ กีฬาสอยคิว มาตั้งแต่วัยเด็ก จนมีฝีมือแกร่งกล้า อย่างเห็นได้ชัด จากนักสนุ๊กเกอร์ ในระดับเยาวชน โดยเส้นทาง ที่เป็นจุดเริ่มต้น ของต๋องก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็น นักสนุ๊กระดับโลกนั้น
ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เริ่มต้นลงแข่งขัน สนุกเกอร์ ในระดับเยาวชนมาก่อน โดยได้รับตำแหน่ง รองชนะเลิศ ในการแข่งขันประเภทดาวรุ่ง ของนิตยสารคิวทอง ในปีพ.ศ. 2527 โดย ณ ตอนนั้น ต๋องมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น หลังจากนั้น
ในปี 2531 ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ก็ก้าวขึ้นมา คว้าตำแหน่งแชมเปี้ยนส์ในการแข่งขันสนุ๊กเกอร์ ชิงแชมป์มือสมัครเล่นโลก ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ โดยในการแข่งขันครั้งนั้น ต๋องเริ่มฉายแวว ให้แฟนสนุกเกอร์ ทั้งชาวไทย และต่างชาติ
ให้เป็นที่ประจักต์กันบ้างแล้ว ก่อนที่นักสนุ๊ก ระดับเยาวชนรายนี้ ในอนาคตต่อมา จะก้าวขึ้นมา สู่การเป็น นักสนุ๊กเกอร์ ในการแข่งขัน ระดับอาชีพ ได้สำเร็จ
ก้าวขึ้นสู่ การแข่งขัน ในระดับอาชีพ ก่อนขึ้นสู่ จุดสูงสุด ในอาชีพ กับการก้าวขึ้นสู่ มือ 3 ของโลก
หลังจากที่ ต๋องศิษย์ฉ่อย ประสบความสำเร็จ จากการแข่งขัน ในระดับเยาวชน พร้อมกับประสบการณ์ ในการเล่นสนุ๊ก ที่สั่งสมมาได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่ต๋อง จะก้าวขึ้นสู่ การเป็นนักสนุ๊กเกอร์ ระดับเล่นอาชีพ ในปี พ.ศ. 2532 และจากสไตล์การเล่น ที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย
ที่เป็นนักสนุ๊ก ในสไตล์ที่ มีความแม่นยำสูง และมีความรวดเร็ว จากผลงาน การแข่งขัน ส่งผลทำให้ เจ้าตัวสามารถ ไต่อันดับโลก ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จนเป็นที่มา ของฉายาว่า ไทย ทอร์นาโด ส่วนฉายา ที่ชาวต่างชาติจะรู้จักต๋อง กันเป็นอย่างดี ในฉายานามว่า Thai Phoon หรือใต้ฝุ่นนั่นเอง
โดยอันดับโลก สูงสุดที่ ต๋องศิษย์ฉ่อย สามารถ ทำอันดับโลก ได้สูงที่สุด นั่นก็คือ มือวางอันดับที่ 3 ของโลก ในช่วงการแข่งขัน สนุ๊กเกอร์อาชีพ ในฤดูกาล 1994/1995 โดยอันดับโลก ของต๋องในขณะนั้น เป็นรองเพียง สตีเฟน เฮนดรี้ และสตีฟ เดวิส แค่นั้นเอง
จากการก้าวขึ้นสู่ มือ 3 ของโลก ทำให้ต๋องกลายเป็นนักสนุกเกอร์ คนที่ 8 ของโลก ที่สามารถคว้าเงินรางวัลเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านปอนด์ จากการแข่งขัน ในระดับอาชีพ ซึ่งในยุคนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ด้วยผลงาน การสร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศไทย
ต๋องศิษย์ฉ่อย ได้กลายเป็น ผู้ปลุกกระแส กีฬาสนุกเกอร์ ในเมืองไทย ให้คนไทย ทั้งในระดับเยาวชน จนถึงระดับผู้ใหญ่ ให้หันมาสนใจ กีฬาสนุกเกอร์กันมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ufasnooker.net
ต๋องศิษย์ฉ่อย จากฟอร์มการเล่น ที่เหมือนกราฟ ที่ทยานขึ้นสู่ จุดสูงสุด ก่อนที่เส้นกราฟ จะดิ่งลง อย่างน่าใจหาย
หลังจากสิ้นสุด การแข่งขัน ระดับอาชีพ ในฤดูกาลปี 1997 จู่ๆผลงาน และฟอร์มการเล่นของ ต๋องศิษย์ฉ่อย ก็ตกลงมา อย่างน่าใจหาย จากผลงาน ที่ตกต่ำลงมา จนถึงในฤดูกาลปี 1999 อันดับโลกของต๋อง ตกลงมาหลายอันดับ จากอันดับ ที่ร่วงหล่นลงมา
ในปี 1999 อันดับโลกของ ต๋องศิษย์ฉ่อย ต้องหลุดจากอันดับ 16 คนแรกของโลก นั้นหมายความว่า เจ้าตัวจะหมดสิทธิ์ ลงทำการแข่งขัน ระดับอาชีพ ในฤดูกาลต่อมา โดยก่อนหน้านั้น ต๋องสามารถ รักษาอันดับ 1-16 ของโลก มาได้ถึง 7 ปีเลยทีเดียว
ก่อนที่อันดับโลก จะตกลงมาเรื่อยๆ ในปี 2007/2008 อันดับโลกของต๋อง ณ ขณะนั้น ร่วงลงมาอยู่ที่ อันดับ 64 ของโลก ก่อนที่จะหลุดจาก อันดับ 64 ของโลก ทำให้เจ้าตัว หมดสิทธิ์ลงแข่งขัน สนุกเกอร์อาชีพ ที่ครูซิเบิล ประเทศอังกฤษ หลังจากผ่านเข้าแข่งขัน มาอย่างยาวนานถึง 20 ปี
ก่อนที่ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย แต่งงาน และหลังจากที่ ต๋องศิษย์ฉ่อย ภรรยา และมีลุกชาย 1 คน โดยเคยมีข่าวโด่งดังกับเรื่องระหว่าง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย แอน มรกต จนหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า อาจส่งผลกระทบ กับฟอร์มการเล่น ของเจ้าตัวด้วย
ในวัย 52 ปี เจ้าตัวเรียกเสียงฮือฮา จากแฟนสนุ๊กได้อีกครั้ง หลังคว้าเหรียญทอง กีฬาซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม
การแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม หนึ่งเหรียญทอง ประวัติศาสตร์ ของนักกีฬาไทย ในการแข่งขันครั้งนี้คือ เหรียญทองการแข่งขันสนุกเกอร์ กีฬาซีเกมส์ โดยการแข่งขัน ในครั้งนี้ ต๋องศิษย์ฉ่อย เดินทางไป ในฐานะ กัปตันทีมไทย
ในรอบชิงชนะเลิศ ต้องมาพบกับ เจ้าของ เหรียญทองสนุกเกอร์ 6 แดงจากมาเลเซีย นั่นก็คือ ลิม ก๊อก เหลียง แชมป์เก่า จากการแข่งขันครั้งก่อน ในรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดง ทำการแข่งขันระบบ 4 ใน 7 เฟรม
เริ่มต้นการแข่งขัน ในเฟรมแรก ลิม ก๊อก เหลียง จากมาเล เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนแต่ ต๋องศิษย์ฉ่อย ก็มาตามตีเสมอโดยเอาชนะได้ ในเฟรมที่ 2 ทำให้เสมอกัน 1-1 เฟรม จากนั้นเข้าสู่เฟรมที่ 3 ลิม ก๊อก เหลียง เป็นฝ่ายขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เฟรม
ถึงเฟรมที่ 4 ต๋อง สามารถตีเสมอ ได้อีกครั้ง กับมาเท่ากันที่ 2-2 เฟรม จนเข้าสู่เฟรมที่ 5 เป็นทาง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่สามารถขึ้นนำคู่แข่งเป็น 3-2 เฟรม จนถึงเฟรมที่ 6 ซึ่งเป็นเฟรมตัดสิน ก็เป็นทาง ต๋อง ที่เอาชนะไปได้ ในเฟรมนี้ ทำให้เอาชนะคู่แข่งไป 4-2 เฟรม
คว้าเหรียญทองมาครอง ได้อย่างสะใจแฟนกีฬาสอยคิวชาวไทย โดยการคว้าเหรียญทอง ในซีเกมส์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นเหรียญแรก ของเจ้าตัว กับกีฬาซีเกมส์ เลยทีเดียว พร้อมจารึกประวัติศาสตร์ ลงใน ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ig ในการคว้าเหรียญทอง ในวัย 52 ปี อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย
เรียบเรียงโดย Bangball
